Monday, 15 September, 2025г.
russian english deutsch french spanish portuguese czech greek georgian chinese japanese korean indonesian turkish thai uzbek

пример: покупка автомобиля в Запорожье

 

ป.ป.ช.เรียกสอบ"บิ๊กโจ๊ก" แจงระงับซื้อไบโอเมทริกซ์ | ข่าวเที่ยงอมรินทร์ | 10 ม.ค.63

ป.ป.ช.เรียกสอบ"บิ๊กโจ๊ก" แจงระงับซื้อไบโอเมทริกซ์ | ข่าวเที่ยงอมรินทร์ | 10 ม.ค.63У вашего броузера проблема в совместимости с HTML5
บิ๊กโจ๊ก เดินทาง เข้าให้ปากคำกรณีจัดซื้อเครื่องไบโอเมททริกซ์ เผยอ่อนใจหลังได้ยินคลิปเสียง พร้อมเคลียร์ใจหากติดต่อมา วันที่ 10 ม.ค.63 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าให้ปากคำกับอนุคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช กรณีการจัดซื้อเครื่องไบโอเมททริกซ์และรถตรวจการไฟฟ้า ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม. โดยมีเอกสารหลักฐานมาส่วนมาให้ ป.ป.ช.ด้วย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันที่ทนรอคอยมากที่สุดเพื่อที่จะมาเข้าให้ปากคำกับอนุกรรมการ ป.ป.ช. ในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง เครื่องไบโอเมททริกซ์ ที่ตนได้ทำการยกเลิกสัญญาไปตั้งแต่สมัยที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เนื่องจากพบพิรุธเครื่องไม่สามารถส่งงานได้ และประสิทธิภาพ ในการใช้งาน ไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ในทีโออาร์ ซึ่งการที่หลายหน่วยพยายามออกมาชี้แจง ว่าเครื่องไบโอเมทริกซ์ สามารถจับคนร้ายได้เท่านั้นเท่านี้ หรือประเด็นที่ว่าหน่วยอื่นก็ใช้งานเครื่องนี้ เป็นคนละเรื่องกับที่ตนกำลังดำเนินการ ยกตัวอย่าง เช่นทีโออาร์ระบุว่าเครื่องไบโอเมททริกซ์ สามารถทำงานได้ 30 อย่าง แต่ใช้งานจริงไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือเอาไปใช้งานแค่ความสามารถเดียว มันคุ้มกับภาษีประชาชนหรือไม่ อีกทั้งยังมาขอเพิ่มงบ จาก 1,000 ล้านบาท เป็น 2,000 ล้านบาท ซึ่งตนยืนยันได้เลยว่าราคาเครื่องไบโอแมททริกซ์ จริงๆแล้วไม่ถึง 1,000 ล้านบาท ก็ต้องไปคิดเอาว่างบประมาณที่ขอเพิ่มมาคืออะไร และงบประมาณก็เป็นของ สตม.แต่มีการให้ทำเรื่องโอนเป็นงบกลางคืออะไร ใครเป็นคนสั่งการตอนนั้น ส่วนเรื่องความคืบหน้าของคดีตนไม่อะไรแล้วหลังจากที่ ได้ฟังคลิปเสียง ก็รู้สึกอ่อนใจ แต่ตนก็ยอมรับ ว่ามีปัญหากับผู้บัญชาการที่อยู่ในคลิปจริง แต่ปัญหาก็มาจากเรื่องของการยกเลิกโครงการการสั่งซื้อเครื่องไบโอแมททริกซ์ นอกจากนี้ตนยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เป็นเกม ที่จะทำให้ตนกลับมาอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกแน่นอน เพราะการที่ตนจะกลับมานั้น อยู่ที่ผู้บังคับบัญชา ไม่ได้อยู่ที่เหตุการณ์นี้ ทั้งนี้อยากจะให้เป็นบทเรียนกับหน่วยงาน ตนเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ใครที่หาผลประโยชน์กับเงินของแผ่นดิน หรือการฉ้อราษฎร์บังหลวง จะต้องมีอันเป็นไป ถ้าหาความยุติธรรมในองค์กรไม่ได้มันก็ต้องออกมาหานอกองค์กรแบบนี้ พร้อมกล่าวทิ้งท้าย ว่า "การที่ คุณมาทำแบบนี้ อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ เขารู้กันหมด แต่คุณต่างหากที่ไม่รู้ว่าเขารู้" ภายหลังการสัมภาษณ์นักข่าวได้สอบถามว่า ถ้าอีกฝั่งติดต่อผ่านผู้ใหญ่เพื่อที่จะขอเคลียร์ใจ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนก็พร้อม ที่จะพูดคุยและเคลียร์ใจกัน แต่ถ้าจะให้ตนทำในเรื่องที่ผิดกฎหมาย ตนขอไม่ทำ หลังจากนี้ จะมีพยาน 40-50 คนมาเข้าให้ปากคำกับ ป.ป.ช. และการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้จะเป็นการให้สัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย เพราะหลังจากนี้ที่ให้ข้อมูล กับป.ป.ช. ก็ถือว่าหมดหน้าที่ตนแล้ว
Мой аккаунт